วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

บันทึกการเรียนครั้งที่ 13



บันทึกการเรียนครั้งที่ 13

วันที่ 21 เดือน พฤศจิกายน ปี 2559  เวลาเรียน 08:30 - 12:30น.



ความรู้ที่ได้รับ

วันนี้เริ่นต้นเรียนด้วยการนำเสนอชิ้นงานที่ทำมาจากวัสดุเหลือใช้ ของเพื่อนที่ยังไม่ได้นำเสนอ

  



วิธีการทำลำโพงมือถือจากขวดน้ำพลาสติก

หลังจากเพื่อนนำเสนองานแล้วอาจารย์ร้องเพลงให้นักศึกษาเดินเป็นวงกลม


รอบที่ 1 เมื่อเพลงหยุดอาจารย์ให้จับกลุ่ม3 คน เมื่อจับกลุ่มได้แล้วให้นั่งลง


รอบที่ 2 ทุกคนเดินใหม่อาจารย์หยุดร้องเพลงและสั่งว่ารถจักรยานยนต์ชนกับรถจักยาน 2ชน 2 เท่ากับ 4ใครจับกลุ่มสี่คนได้แล้วให้นั่งลง




รอบที่ 3 ทุกคนเดินใหม่อาจารย์หยุดร้องเพลงและสั่งว่าให้จับกลุ่ม 5 คน

แล้วอาจารย์ก็ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันแต่งละครเรื่องสั้น โดยมีประเด็นปัญหาคือ "ถ้าสิ่งมีชีวิตในโลกพูดได้จะเกิดอะไรขึ้น"


แจกกระดาษให้กลุ่มละ 3 แผ่น






ในกลุ่มช่วยกันแต่งละคร

แต่งละครเสร็จแล้ว


ความรู้สึกของทุกคนในกลุ่มที่มีต่อการแสดงละครในครั้งนี้


กลุ่มที่ 1 แสดงเรื่อง "ถ้าฉันเดินได้


หญ้าแฝกและเพื่อนๆ เพื่อนๆของหญ้าแฝกเดินได้อยู่มาวันหนึ่งหญ้าแฝกอยากเดินได้เพื่อที่จะได้เดินไปไหนมาไหนกับเพื่อนสัตว์ 
เพื่อนเลยช่วยกันดึงหญ้าแฝกออกมาจากดินแล้วพาเดินเล่นไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปหญ้าแฝกค่อยๆเฉาและอ่อนแรงลง เพื่อนๆจึงพาหญ้าแฝกกลับมาที่ริมน้ำที่เดิมทำให้หญ้าแฝกกลับมาสดชื่นได้อีกครั้ง
ละครเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า" ทุกสิ่งมีหน้าที่ของแต่ละสิ่งในแต่ละพื้นที่ จงพอใจในสิ่งที่มีอยู่"

กลุ่มที่ 2 เรื่อง "ยีราฟผู้กระหายน้ำ"



เจ้ายีราฟหิวน้ำมากแต่ด้วยความที่คิดว่าบ่อน้ำข้างหน้าจะมีน้ำให้ดื่มมากกว่าบ่อที่เจอจึงเดินไปหาบ่อน้ำเรื่อยๆจนในที่สุดเจ้ายีราฟก็ใกล้จะขาดน้ำตาย ทันใดนั้นก็มีเพื่อนสัตว์ด้วยกันบอกให้เจ้ายีราฟกลับไปดื่มน้ำบ่อแรกที่เจอและอย่าหวังน้ำบ่อหน้าอีก เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วเจ้ายีราฟจึงตัดสินใจเดินทางกลับมายังบ่อน้ำที่1เพื่อที่จะดื่มและมีชีวิตอยู่ต่อไป
ละครเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า"ทำวันนี้ให้ดีที่สุดและเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนมีอย่าไปหวังในสิ่งที่เรายังไม่เจอ"


กลุ่มที่ 3 เรื่อง "ป่ามหัศจรรย์

เป็นเรื่องราวของพญานกผู้มีใจเมตตา เมื่อสัตว์ทุกตัวพูดได้ และพญานกจะกินสัตว์ตัวใดเป็นอาหาร พอสัตว์เหล่านั้นร้องขอชีวิตพญานกก็ไม่กินจนในที่สุดพญานกก็ตายเพราะความหิว
ละครเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า"ความเมตตาที่ไม่ถูกต้องอาจจะกลับมาทำร้ายเราเอง"


กลุ่มที่ 4 เรื่อง "เพื่อนรัก"
สัตว์ทุกตัวเป็นเพื่อนกันอยู่มาวันหนึ่งเจ้าสิงโตเดินไปเจอบ่อน้ำแห่งหนึ่งแล้วดื่มน้ำนั้นแล้วทำให้เจ้าสิงโตพูดได้ จากนั้นเจ้าสิงโตจึงสั่งให้เพื่อนสัตว์ทุกตัวมารับใช้เจ้าสิงโตเพราะเจ้าสิงโตพูดได้อยู่ตัวเดียวในที่สุดเพื่อนสัตว์ทั้งหลายก็เดินไปเจอบ่อน้ำที่เจ้าสิงโตเจอ สัตว์ทุกตัวได้ดื่มน้ำนั้นแล้วพูดได้เหมือนเจ้าสิงโต เหล่าสัตว์จึงมาหาเจ้าสิงโตแล้วบอกความจริงทั้งหมดและไม่ยอมรับใช้เจ้าสิงโตอีกต่อไปเพราะแต่ละตัวก็พูดได้เช่นกัน เจ้าสิงโตรู้สึกถึงความผิดของตนเองจึงขอโทษเพื่อนๆและขอกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม พวกเพื่อนๆเห็นว่าเจ้าสิงโตกลับใจจริงๆทุกตัวจึงให้อภัยให้เจ้าสิงโตแล้วกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมอย่างมีความสุข
ละครเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "อยู่ร่วมกันในสังคมต้องไม่เห็นแก่ตัว"



กลุ่มที่ 5 เรื่อง "เจ้าหญิงกบ"



มีเจ้าชายองค์หนึ่งที่กำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ตนเองไม่ได้รักแต่ถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงาน เจ้าชายจึงหนีการแต่งงานไป ระหว่างทางเจ้าชายเจอกบตัวหนึ่งที่ร้องขอให้เจ้าชายช่วย เมื่อเจ้าชายทำตามในสิ่งที่เจ้ากบของแล้วคำสาปของเจ้ากบก็หายไป เจ้ากบกลายเป็นหญิงสาวผู้งดงาม เมื่อเจ้าชายเห็นว่าเจ้ากบงดงามยิ่งนักเจ้าชายก็ใช้ชีวิตอยู่กินกับเจ้ากบ เวลาผ่านไปหลายปี เจ้ากบเห็นว่ากันใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าชายนั้นมันน่าเบื่อ เจ้ากบจึงทิ้งเจ้าชายแล้วไปหาชายอื่น ทำให้เจ้าชายเสียใจมากที่เจ้ากบหญิงอันเป็นที่รักหนีไปหาผู้ชายอื่น
ละครเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "ทำสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น"



กิจกรรมต่อมาคือให้แบ่งกลุ่ม 5 คนโดยที่สมาชิกในกลุ่มต้องไม่ซ้ำกับกลุ่มเดิม จากนั้นให้แต่ละกลุ่มช่วยกันคิดหาเพลงและใช้อวัยวะทุกส่วนทำเป็นเสียงดนตรีประกอบ ข้อแม้คือเครื่องดนตรีในกลุ่มต้อง
ไม่ซ้ำกัน



การนำไปประยุกต์ใช้
- การตั้งประเด็นปัญหาเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้คิดและแสดงออก
 ผลการประเมิน

การประเมินตนเอง
 - เข้าเรียนตรงเวลา 
- สนุกกับทุกกิจกรรม ได้แสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำในการทำกิจกรรมกับเพื่อนๆในกลุ่ม

การประเมินเพื่อน

- เพื่อนๆตั้งใจเรียนและเข้าเรียนตรงเวลา
- เพื่อนๆให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆเป็นอย่างดี
- เพื่อนๆทุกคนสนุกและมีความสุข
การประเมินอาจารย์
- อาจารย์เข้าสอนตรงเวล
- อาจารย์ค่อยให้คำแนะนำและสอนอย่างสนุกสนานมาก
- อาจารย์มีความสุขในการสอน



















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น